หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

Review : เซรั่มปลูกคิ้ว Merris by Mammaherb

                'เพราะคิ้ว คือ มงกฎของหน้า' ใครเป็นคิดสโลแกนนี้ คือ ดาวว่ามันใช่เลย ยังไงใบหน้าที่เครื่องครบ คิ้วโก่ง มันก็ย่อมส่งให้เกิดได้มากกว่าคิ้วโล้นๆ อยู่แล้ว และถ้าฉันคิ้วบางล่ะ จะทำไง!!! เข้าเรื่องเลยดีกว่า คืองี้...บังเอิ๊ญ ไปเจอเซรั่มปลูกคิ้วตัวหนึ่ง มันแซ่บบบบ ก็ต้องบอกต่อ ทาไปก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะใช้มาแทบจะนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ตัวนี้รู้สึกมันเห็นผลชัดสุดตั้งแต่เคยใช้มา หมดไปขวดนึง รู้สึกขนคิ้วอ่อนๆ มันเริ่มมาละ คิ้วก็เริ่มชัดขึ้นนิดนึง อาจจะไม่ได้ชัดมากจนคนทัก เฮ้ยย ไปทำไรมา มงกุฎหนาขึ้นนะ  ไรงี้ แต่มันก็ถือว่าโอเคกว่าเดิมนะคะ 
                เจ้าตัวนี้ชื่อว่า Merris ขวดนึงปริมาณอยู่ที่ 2.3 ml ถือว่าน้อยถ้าเทียบกับราคา 220 บาท แต่ก็ใช้ได้นานเป็นเดือนอยู่นะคะ สิ่งที่แบรนด์เค้าเคลมมาคือ ช่วยให้คิ้วดกดำอย่างเป็นธรรมชาติ เร่งการงอกใหม่ของขนคิ้ว โดยไม่ทำลายโครงสร้างของเส้นขน ทั้งยังมีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ 

ปลูกคิ้ว
ปลูกคิ้ว

1. ผงถ่านมะพร้าว ทำจากมะพร้าวทึนทึก ซึ่งมีน้ำมันที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของเส้นขน
2. กะเม็ง ช่วยให้ขนคิ้วดกดำ เร่งการงอกใหม่
3. อัญชัน มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยในการไหลเวียนเลือดบริเวณที่ขนคิ้วขึ้น เร่งการเจริญเติบโตของเส้นขน ทำให้ขนคิ้วดกดำ เงางาม
4. น้ำมันมะพร้าว ช่วยให้คิ้วดกดำ เงางาม

                เมื่อผสาน 4 พลังธรรมชาติ จึงช่วยกระตุ้นให้ขนคิ้วให้แลดูดกดำเงางามค่ะ มาถึงวิธีใช้กันบ้างดีกว่า  เปิดฝามาจะมีหัวเป็นฟองน้ำอยู่ที่ปลาย ลักษณะเซรั่มจะเป็นสีดำๆ ค่ะ เมื่อทาลงบนคิ้วจะรู้สึกว่าคิ้วเข้มขึ้นทันที แต่ต้องเกลี่ยดีๆ หน่อย ตอนกลางคืนไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร โบกได้เยอะเท่าไรก็ได้ แต่ตอนเช้าสาวๆ ต้องไปทำงาน และต้องใช้ดินสอเขียนคิ้ว อาจจะโบกบางนิดนึง รอแห้งก็เขียนคิ้วได้ตามปกติค่ะ ทาเช้า ทาเย็นประมาณ 2 อาทิตย์ก็สังเกตได้ค่ะว่าขนอ่อนๆ มันเพิ่มมากขึ้นจนสังเกตได้ แต่ความดำของเส้นขนยังไม่มากเท่าที่เราต้องการ ก็ตามหากันต่อไปค่ะ อาจจะเจอตัวที่ใช่มากก่านี้ แล้วจะมารีวิวให้ชมกันอีกค่ะ

ปลูกคิ้ว
ปลูกคิ้ว
ปลูกคิ้ว
ปลูกคิ้ว

                ต้องบอกก่อนนะคะว่าว่าผลที่ได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาจจะไม่เหมือนกัน เช่น ความสม่ำเสมอในการทา บางคนทามั่งไม่ทามั่ง แล้วมาบ่นว่าไม่เห็นจะได้ผล อันนี้ก็ไม่ใช่ไหมล่ะ หรือบางคนร่างกายอาจจะไม่รับก็เป็นได้ค่ะ อย่าไปคาดหวังอะไรมาก ลองใช้ดูก่อน เสนอเป็นทางเลือกให้ฮิวแมนกลุ่มคิ้วบางเหมือนกันลองใช้กันดู เพราะคิ้วเป็นมงกุฎของหน้าค่ะ พยายามต่อไปนะคะ ^^

                สำหรับคนที่สนใจอาจจะหาซื้อยากนิดนึง ลองเสิร์ชกูเกิล คำว่า ศูนย์มะมา เฮิร์บ มีหลายสาขาอยู่ค่ะ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้ แล้วมาบอกกันบ้างว่าได้ผลหรือเปล่า สู้ๆ ค่ะ ^^

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปแว๊นซ์ซ่าท้าหนาว ตะลุยเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ห้วยน้ำดัง ดอยอินทนนท์ สองคนกับมอเตอร์ไซต์ 1 คัน ลุยกันเลย ^^ (Part 3)


Part 3 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

                วันนี้เราหวังว่าจะเป็นไฮไลท์ของทริปเชียงใหม่ของเรา เราเริ่มออกเดินทางจากที่พักแถวๆ ม.แม่โจ้ ใน อ.สันทราย ประมาณ 8 โมง ก่อนขึ้นดอยมีโปรแกรมแวะนั่นแวะนี่หลายที่อยู่เหมือนกัน (สงสารคนขับรถเก๊าจัง ^^!)

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปแว๊นซ์ซ่าท้าหนาว ตะลุยเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ห้วยน้ำดัง ดอยอินทนนท์ คนสองคนกับมอเตอร์ไซต์ 1 คัน ลุยกันเลย ^^ (Part 2)

Part 2 อุทยานแห่ชาติห้วยน้ำดัง ^^

ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง

ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง

           แว๊นซ์ออกจากดอยอ่างขางประมาณ 10 โมงเช้า เราก็มุ่งหน้าไปที่จุดหมายต่อไปของเรา นั่นคือ ห้วยน้ำดัง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเส้นทางโหดกว่าดอยอ่างขางมาก ทั้งชั้น ทั้งคดเคี้ยว ถนนขรุขระ แถมโค้งไปโค้งมา เป็นร้อยๆ โค้ง ณ จุดนี้ กว่าจะถึงห้วยน้ำดังปาเข้าไป  5 โมงเย็นพอดี ร่างจิแหลกเป็นผุยผง ถึงปุ๊บก็พุ่งไปที่สำนักงานอุทยานทันทีจ้า ไปหาที่นอนกันก่อน จองเต็นท์เรียบร้อยก็ขนเครื่องนอนไปเก็บที่เต็นท์กัน ที่นี่จะให้ไปเลือกเต็นท์ที่ว่างได้เลยค่ะ และเต็นท์ที่นี่ก็ดูจะโอเคกว่าที่ดอยอ่างขางมาก กว้างขวาง โอ่อ่า สมฐานะหน่อย 555+ แถมสบายกว่าตรงมีเบาะให้เช่าสำหรับรองนอนด้วย เต็นท์เราอยู่บริเวณจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกพอดี๊  ณ จุดนี้ บ่องตงว่าฟินสุดๆ  วิวส๊วยสวย หวังว่าคืนนี้จะได้หลับสบาย ไม่หนาวมาก และแล้วก็รู้ว่าคิดผิด 55+ หนาวพอกันเล้ยยย 8 องศาเบา เร้าใจ ต้องเดินไปหานมอุ่นๆ แก้หนาวกินก่อนนอน ค่อยยังชั่วหลับสบายหน่อย 

ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง

ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง

            ก่อนอรุณเบิกฟ้าเราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อขับรถขึ้นไปที่จุดชมวิว ซึ่งไม่ไกลจากที่พักมากค่ะ แค่ 5 นาทีก็ถึง แต่ไม่รู้เพราะว่าเรามาหรือฟ้ากลั่นแกล้งกัน เมฆมาเต็ม ฟ้าปิดสนิท อดดูพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ เลย ถึงจะแป้ก แต่ทะเลหมอกที่นี่ก็สวยมากค่ะ ถือว่ายังโอเค พอทดแทนกันได้  หลังจากกินลมชมวิวสักพักก็ออกเดินทางกลับกัน บ๊ายยยบายห้วยน้ำดังจ้า

ห้วยน้ำดัง
ห้วยน้ำดัง

              วันนี้เราจะกลับไปพักประกอบร่างในตัวเมืองเชียงใหม่กัน 1 คืน ก่อนจะขึ้นดอยอินทนนท์ ทริปสุดท้ายของเรา ขับรถขาลงก็โหดไม่แพ้ขาขึ้นค่ะ ระหว่างทางเจอที่เที่ยวเราก็แวะรายทางตลอด พักบ้าง กินบ้าง เที่ยวบ้าง สนุกดีค่ะ หนึ่งในนั้นก็มีบ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด ซึ่งต้องเลี้ยวเข้าไปในถนนเล็กๆ  อีก 6 กม. ซึ่งทางโหดมาก ขรุขระมาก หัวสั่นเป็นจังหวะเรกเก้กันเลยทีเดียว หลังจากเดินชมบ่อน้ำพุร้อน ก็ออกเดินทางกันต่อ ก่อนจะเข้าสู่ตัวเมืองก็ได้แวะเยี่ยมเยียนน้ำตกหมอกฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ชั่วฟ้า ดินสลาย เวอร์ชั่นพลอย อนันดา น้ำตกหมอกฟ้าเป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูง บริเวณน้ำตกมีพืชทั้งมอสและเฟิร์น อากาศเย็นสบาย ถ้าเป็นตอนเช้าแสดงแดดจะส่องลงมากระทบกับละอองน้ำ เกิดเป็นรุ้งกินน้ำที่งดงามมาก

โป่งเดือด
โป่งเดือด

โป่งเดือด
โป่งเดือด

โป่งเดือด
โป่งเดือด
โป่งเดือด
โป่งเดือด

น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า

               ชื่นชมความงามของน้ำตกจนอิ่มใจแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อ กว่าจะถึงที่พักปาเข้าไป 6 โมงเย็นคร้าบบบบ วันนี้ขอหลับแบบสบายๆ สักคืนละกัน พรุ่งนี้ค่อยไปลุยกันต่อ ^^

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปแว๊นซ์ซ่าท้าหนาว ตะลุยเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ห้วยน้ำดัง ดอยอินทนนท์ สองคนกับมอเตอร์ไซต์ 1 คัน ลุยกันเลย ^^ (Part 1)


            ครั้งแรกกับการเขียน Blog ตื่นเต้นๆ เข้ามาอ่านกันเยอะๆ นะคะ การเที่ยวครั้งนี้ของปลาถือว่าโหดสุดๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซต์ตลอดทริป ต้องขึ้นดอย เจอทั้งทางลาดชัน ขรุขระ ทางคดเคี้ยวไปมา จิบอกว่าเมื่อย Tood มากๆๆ แต่วิวกับบรรยากาศมันทำให้เคลิบเคลิ้มจนลืมเหนื่อยไปเลย เป็นทริปเดอะเบสท์ที่ประทับใจสุดๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเนื้อหายาวมาก จึงขอแบ่งเป็น 3 Part นะคะ 

Part 1 ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

            เราเดินทางเวลากลางคืน ถึงเชียงใหม่ประมาณ 5 ทุ่ม ได้พักบ้านเพื่อน ไม่เสียค่าที่พัก ดีตรงนี้  อิอิ นอนพักเก็บแรงไว้ก่อน 1 คืนก่อน พรุ่งนี้ต้องเดินทางอีกยาว พอรุ่งเช้าก็ไปจองมอเตอร์ไซต์เท่าที่ดูจากอินเตอร์เน็ตมา ร้านนี้น่าจะโอเคสุด ชื่อร้าน Bikky  ในตัวเมืองเชียงใหม่ ร้านมีหลายสาขา ทั้งที่ห้วยแก้วและอาเขต เพื่อนๆ สามารถ search หาข้อมูลร้านได้จากอากู๋เลยจ้า หากลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของทางร้านมีส่วนลดให้ด้วยวันละ 25 บาท มาถึงร้านก็ให้แจ้งว่าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แล้ว ที่ร้านมีรถมอเตอร์ไซต์ก็มีหลายรูปแบบ ต้องลองไปเลือกกันดูตามชอบจ้า ปลาเอาแบบ 125 CC เพราะเห็นว่าไปกันแค่ 2 คน น่าจะโอเคละ ราคาเช่าวันละ 250 เช่า 4 วัน 1,000 บาท ได้ส่วนลด 100 บาทด้วย เพราะก่อนมาจองเราลงทะเบียนในอินเตอร์เน็ตไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากทำสัญญาเช่าเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

                 จุดหมายปลายทางแรกของเรา คือ ดอยอ่างขาง ระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตรจากตัวเมืองเชียงใหม่  ออกเดินทางประมาณ 10 โมง ขับรถกันไปเรื่อยๆ เมื่อยก็พักระหว่างทาง เนื่องจากระยะทางค่อยข้างไกล ใครอยากเที่ยวแบบนี้เตรียมใจไว้เลย คุณจะรู้สึกเมื่อย Tood แบบไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ระหว่างทางก็มีร้านกาแฟน่ารักให้จอดพัก จิบกาแฟ สบายๆ อีกอย่างวิวที่แปลกหูแปลกตาก็ทดแทนความเหนื่อยล้าไปได้ ขับบ้างพักบ้างไม่นานเราก็มาถึงดอยอ่างขาง เวลาประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ ได้ ช่วงที่ไปอากาศดีมากกกก เย็นสบายทั้งวัน เริ่มหวั่นๆ ว่ากลางคืนจิต้านทานไหวไหม เรื่องเต็นท์ก็ไปเช่าของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานที่กางเต็นท์เป็นลานสน ค่าเช่าเต็นท์พร้อมอุปกรณ์มีหมอน ผ้านวม ประมาณ 300 บาท เต็นท์เป็นแบบ 2 คน หลังเล็กหน่อย โชคดีที่เราแบกถุงนอนกันมาเอง เลยไม่ต้องมาเช่าถุงนอน เอาของเก็บเข้าเต็นท์แล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งอยู่ห่างจากที่กางเตนท์ราว 2 กม.  เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท ถ้าเอามอเตอร์ไซต์เข้าไปด้วยก็เสียเพิ่มคันละ 20 บาท
ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

                ภายในสถานีเกษตรก็มีแปลงพันธุ์ไม้เมืองหนาวให้ชมมากมาย มีสวนสวยๆ และมีการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของพวกชาวเขา เป็นวิถีชีวิตน่ารักที่หาไม่ได้ใน กทม. ภายในสถานีเกษตรยังมีฬ่อ (ม้าผสมลา) ที่หน้าตาเมหือนม้าให้ขี่ถ่ายรูป หรือเดินเล่นได้ด้วยค่ะ แต่ก่อนจะกระโดขึ้นขี่ก็ต้องพิจารณาน้ำหนักกันนิดหนึ่งนะคะ หนักไปมันอาจจะรับไม่ไหว ส่วนใหญ่ก็จะเห็นเด็กๆ ขี่กัน เพลินลื้มมม!! นอกจากนี้ในสถานีเกษตรยังมีดอกนางพญาเสือโคร่งบานอยู่ทั่วสถานี บางทีนึกเคลิ้มไปว่าอยู่ในเจแปน ^^ แต่ช่วงธันวาที่ปลาไปยังบานไม่ค่อยเยอะเท่าไร ถ้าช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาคงสวยอลังการกว่านี้ ธรรมชาติและความสวยงามของพันธ์ไม้ บรรยากาศ ในอ่างขางวันเดอร์แลนด์มันทำให้เราช่างแสนเพลิดเพลิน กดชัตเตอร์แบบรัวๆ กว่าจะกลับเข้าเต็นท์ก็เกือบค่ำค่ะ ^^

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

                อากาศช่วงค่ำที่นี่ก็ใช่ย่อย  หนาวสั่นสะท้านทรวงเหมือนกันคร่า เจอไป 10 องศา เบาๆ นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว เรื่องอาบน้ำก็ไม่ต้องพูดถึงกันจ้า หนาวขนาดนี้ ให้โดนน้ำยังคิดหนักเลย ห้องน้ำห้องท่าก็ถือว่าสะดวกสบายไม่ไกลจากเต็นท์เท่าไร เรื่องอาหารการกินก็ไม่ลำบาก เพราะบริเวณจุดกางเต็นท์ก็มีร้านจำหน่ายอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย มีทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวต้ม โจ๊ก แถมยังมีไก่อบโอ่ง มันเผา ไข่ปิ้ง ฯลฯ รสชาติอร่อยเทียบร้านอาหารแพงๆ ได้เลยล่ะ
                เช้าอีกวันที่ดอยอ่างขาง ได้เข้าไปเดินดูวิถีชีวิตชาวเขาใกล้ๆ สถานีเกษตร ไปนั่งกินไก่ต้มโสม กับนมสด จะบอกว่านมสดเข้มข้มหอมมัน อร่อยมั่กมากกกกก ในตลาดเช้าก็จะมีทั้งผักที่ชาวบ้านปลูกเอง เสื้อผ้าชาวเขา เครื่องเงิน สตรอเบอร์รี่สด  ฯลฯ เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่ดูน่ารักและมีความสุขสุดๆ เลยค่ะ


ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง 


              ก่อนกลับเราแวะไปเที่ยวไร่สตรอเบอร์รี่ขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลสถานีเกษตรอ่างขาง ด้วยความที่ว่าอยู่แต่พื้นราบไม่ค่อยขึ้นที่สูงเท่าไร เห็นอะไรเป็นต้องตื่นตาตื่นใจไปหมด อิอิ ไร่สตรอเบอร์รี่นี่ก็เหมือนกันค่ะ มันดูอลังการดาวล้านดวงมาก เค้าทำเป็นลักษณะขั้นบันได สีเขียวของไร่สตอเบอร์รี่ที่กว้างใหญ่ ตัดกับฟ้าสีเข้ม โอ้โห สวยงามธรรมชาติสุดๆ ลัลลาปาทังก้าปาทังกี้สิคราวนี้ ^^

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง

           ชื่นชมความงามกันจนอิ่มใจ เราก็บ๊ายบายดอยอ่างขาง ดินแดนที่แสนสงบ เรียบง่าย ผู้คนเป็นกันเอง น่ารักที่สุด มีโอกาสจะมาเยี่ยมเยียนอีกนะคะ มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายต่อไปของเรา ห้วยน้ำดัง