หน้าเว็บ

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปแว๊นซ์ซ่าท้าหนาว ตะลุยเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ห้วยน้ำดัง ดอยอินทนนท์ สองคนกับมอเตอร์ไซต์ 1 คัน ลุยกันเลย ^^ (Part 3)


Part 3 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

                วันนี้เราหวังว่าจะเป็นไฮไลท์ของทริปเชียงใหม่ของเรา เราเริ่มออกเดินทางจากที่พักแถวๆ ม.แม่โจ้ ใน อ.สันทราย ประมาณ 8 โมง ก่อนขึ้นดอยมีโปรแกรมแวะนั่นแวะนี่หลายที่อยู่เหมือนกัน (สงสารคนขับรถเก๊าจัง ^^!)
สถานที่แรกเป็นวัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,700 ปี อยู่ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กม. ที่นี่มีหลวงพ่อทันใจที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปบนบานและประสบความสำเร็จตามที่ขอ ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิมาแก้บนกันมากมาย ปลาก็ไปกราบขอพรกับเค้าเหมือนกัน แต่ขอไม่บอกนะฮร้าว่าขอเรื่องอะไร อิอิ ออกจากวัดพระธาตุดอยคำ ขับรถไปตามเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ เราได้แวะไปที่พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตั้งใจว่าจะแวะไปให้ได้ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-ฮอด (อินทนนท์) ต.ยางคราม อ.ดอยหล่อ ภายในมีการจัดสถานที่ไว้ให้บูชาขอพรต่อองค์พระพิฆเนศ และมีส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าความเป็นมาของพระพิฆเนศปางต่างๆ และแสดงรูปปั้นพระพิฆเนศของแต่ละประเทศ โดยจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายให้ฟังค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ด้านในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดสร้างเทวาลัยพระคเนศ ซึ่งภายในเทวาลัยได้จำลองคณปติโลก (โลกที่ประทับของพระพิฆเนศ) อิฐทุกก้อนของเทวาลัยแห่งนี้ผ่านการสวดและลงอักขระก่อนนำมาประกอบเป็นเทวาลัย ใครที่ได้เข้าไปสักการะพระพิฆเนศในเทวาลัยแห่งนี้ จึงเปรียบเสมือนได้สักการะพระองค์ถึงในวิมานทีเดียวค่ะ


วัดพระธาตุศรีจอมทอง
วัดพระธาตุศรีจอมทอง

วัดพระธาตุศรีจอมทอง
วัดพระธาตุศรีจอมทอง

พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ

                แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือ หาที่นอนสำหรับคืนนี้ให้ได้ก่อน เราไปติดต่อขอเช่าเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติ  ซึ่งเต็นท์ที่นี่ก็จะคล้ายๆ กับที่ห้วยน้ำดังค่ะ แต่ที่นี่เจ้าหน้าที่จะเขียนหมายเลขเต็นท์ที่ว่างให้เราก่อน แล้วเราถึงค่อยขับรถขนสัมภาระไปไว้ที่เต็นท์ตามหมายเลขที่ได้รับ ซึ่งบริเวณที่กางเต็นท์เป็นลานสนขนาดใหญ่ ห่างจากสำนักงานอุทยานแห่งชาติประมาณ
1 กิโลเมตร ทุลักทุเลนิดหน่อย เพราะต้องแบกเบาะรองนอน แบกหมอนขึ้นมอเตอร์ไซต์มา หลังจากเอาของไว้ในเต็นท์เรียบร้อย ก็ออกสำรวจกันค่ะ เราเข้าไปเยี่ยมชมสถานีเกษตรของที่นี่ ซึ่งคล้ายๆ กับที่ดอยอ่างขาง และได้ไปเที่ยวน้ำตกสิริภูมิที่อยู่บริเวณเดียวกัน  น้ำตกแห่งนี้ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ไหลลงมาจากเขาสูงมาก มองเห็นได้ในระยะไกล บริเวณน้ำตกก็ร่มรื่นมาก ปกคลุมไปด้วยพืชจำพวกเฟิร์น มอส ชุ่มชื้นตั้งแต่ก้าวเข้าไปเลยล่ะ หลังจากเที่ยวเล่นในสถานีกันพอกรุบกริบ ก็ขับรถไปดูตลาดชาวเขาที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานอุทยานแห่งชาติค่ะ ในตลาดก็จะขายทั้งผัก ผลไม้เมืองเหนือ ผักสดน่ากินสุดๆ เพราะเพิ่งเก็บมาจากไร่ ผลไม้ก็มีทั้งท้อ อะโวคาโด้ และก็มีอัลมอนด์ดอย อันนี้เด็ดมาก อร่อยน้ำตาไหล เป็นอัลมอนด์ที่คั่วทั้งเปลือกกับคาราเมลหรืออะไรสักอย่างแต่หอมมาก กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ นอกจากนี้ก็มีพวกเครื่องเงิน เครื่องประดับ แหวน สร้อย เสื้อผ้าของชาวพื้นเมือง ชาวเขาเผ่าต่างๆ ราคาก็ต่อรองได้ค่ะ เดินชมตลาดจนฉ่ำใจแล้วเราก็กลับเข้าที่พัก มื้อเย็นของเราวันนี้เป็นหมูกระทะ ปิ้งย่างกันหน้าเต็นท์ ไม่สะดวกแต่สนุกมากค่ะ กินเสร็จก็เดินย่อยสักแป๊บ แล้วซุกตัวเข้าถุงนอนทีเวลานี้เป็นสรรค์ที่แสนอบอุ่นของเรา ออมแรงไว้ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ซึ่งเราคาดการณ์ว่าต้องหนาวมากแน่ๆ ก็ขนาดอยู่แถวนี้ยัง 10 องศา ขึ้นไปอีกสิบกว่ากิโลเมตรนี่ มีปวดร้าวกระดูกแน่นอน หลับยาวไปถึงตีสอง ตื่นเพราะปวดฉี่ ห้องน้ำที่นี่ ถือว่าดีที่สุดตลอดทริปที่เราไปกันมาค่ะ ห้องน้ำกว้าง มีสายฉีดชำระ แถมมีห้องอาบน้ำอุ่นด้วย แต่ห้องอาบน้ำอุ่นมีไว้สำหรับคนพิการนะคะ แต่เห็นคนปกติก็เข้าอาบกัน แฮร่!! ก็มันหนาว เข้าใจได้ ส่วนปลากับแฟน ไม่ต้องถามค่ะ เพราะไม่อาบอีกเหมือนเดิม ดี๊ดี 555+


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

                นอนหลับสบาย ตื่นมาอีกทีแฟนปลุกตอนตีห้า บอกเราต้องเตรียมตัวขึ้นไปดูแสงแรกบนจุดที่สูงที่สุดกันล้าวววววว พร้อมมั๊ยวัยรุ่น!!! ตอบเลยมากกกกกก พร้อมมาก หนาวมากด้วย จุดสูงสุดที่เราจะขึ้นไป ห่างจากเต็นท์ที่พักประมาณ 16 กม. หลังจากแพ็คเครื่องกันหนาวให้ตัวเองแบบจัดเต็ม ก็แวนซ์ซ่า ท้าหนาวกันไปเลย ต้องค่อยๆ ขับไปค่ะ เพราะมันหนาวกิงๆ ที่เห็นรถส่ายไปส่ายมานี่ไม่ใช่อะไรนะคะ สั่นระริก 555+ เราขึ้นไปถึงกิ่วแม่ปาย จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ประมาณ โมงนิดๆ ค่ะ ณ จุด นี้ มันที่สุดของความหนาวยะเยือก หนาวปวดร้าวกระดูก หนาวจนแบบอยากจะจุดไฟให้มือและ Teen กับเลยทีเดียว  มันสุดๆ จริงๆ ค่ะ แต่วินาทีที่พระอาทิตย์ขึ้นนี่ลืมหนาวไปเลย เพราะวันที่เราอากาศเปิด ทำให้เห็นพระอาทิตย์สวยมาก ได้ยินประกาศเสียงตามสายว่าเช้านี้กิ่วแม่ปานอุณหภูมิ -2 องศา แม่เจ้า!!! ว่าแล้วทำไมมันถึงสั่นริกๆๆ จนมือแทบจะกดชัตเตอร์ไม่ได้ แต่มีเพื่อนหนาวเยอะเลยค่ะ สั่นกันทู๊กกกกกคน ^^  อิ่มใจกับภาพวิวพระอาทิตย์ขึ้นกันไปแล้ว เราก็ขับรถขึ้นไปจุดที่สูงสุดของประเทศไทย เลยกิ่วแม่ปานไปนิดหน่อยค่ะ ระหว่างทางเราเห็นแม่คะนิ้งเต็มไปหมด ตื่นตาตื่นใจมากค่ะ บริเวณที่เรียกว่าจุดที่สูงที่สุดก็มีเส้นทางเดินป่าสั้นๆ ให้ศึกษาธรรมชาติ และไปถ่ายรูปกับป้ายจุดที่สูงที่สุดของประเทศไทยกัน  ตรงนี้เป็นจุดยอดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน เอาไว้อวดคนอื่นว่าเรามาพิชิตดอยอินทนนท์แล้วจริงๆ


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์
        
             จากนั้นเราก็ขับรถลงมาที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานอีกครั้ง มานั่งกินข้าวต้มร้อนๆ กับขนมปังปิ้งคลายหนาว หลังจากนั้นใกล้ๆ กันจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ซึ่งถ้าใครไม่สังเกตอาจพลาดจุดนี้ได้ค่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าจุดนี้คือจุดที่พีคสุดๆ ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ การขึ้นไปเดินศึกษาธรรมชาติบนเส้นทางนี้จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางไปด้วย และต้องไปกันเป็นกรุ๊ป กรุ๊ปละกี่คนก็ได้ แต่ละกรุ๊ปจะต้องจ่ายค่านำทางกรุ๊ปละ 200 บาทต่อไกด์ 1 คนค่ะ เส้นทางที่ให้เดินประมาณ 3 กม. นิดๆ มีทั้งหมด 21 จุดค่ะ ห้ามเดินออกนอกเส้นทางเด็ดขาด อาจจะหลงได้ง่ายๆ ค่ะ แต่ละจุดจะมีลักษณะทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน ไกด์ก็จะให้ความรู้เราเรื่องต้นไม้ ธรรมชาติต่างๆ ของป่า ซึ่งเมื่อเดินไปถึงประมาณจุดที่ 15 จะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ซึ่งมันสวยอลังการมากจริงๆ ค่ะ เห็นวิวได้กว้างสุดๆ เห็นทะเลหมอกสวยๆ ปกคลุมทิวเขา มองเห็นพื้นดินเบื้องล่างแบบรำไรๆ ซึ่งเป็นหมู่บ้านและชุมชนของ อ.แม่แจ่ม บางคนจึงเรียกที่นี่ว่าสวรรค์ชั้น 7  เราเดินขนาบกับเส้นขอบฟ้าไปเรื่อยๆ ณ ขณะนั้นคือลืมหมดทุกสิ่ง เพราะวิวมันสวยมากจริงๆ และที่พีคกว่านั้นคือเราได้เจอกวางผา สัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธ์แบบตัวเป็นๆ ออกมารับลมที่ชะง่อนหินเบื้องล่าง เวรี่กรี๊ดเลยคร้าบบบบ อย่างที่ทราบว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกวางผา ซึ่งมีไม่กี่แห่งในประเทศไทย และเป็นที่ที่เราจะพบเห็นกวางผาได้ง่ายตอนนั้นเข้าใจพี่ติ๊ก เนวิเกเตอร์แล้วล่ะ ว่าทำไมถึงชอบเดินป่า ^^ อารมณ์มันพลุ่งพล่าน แตกต่างจากที่เราดูสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์อย่างสิ้นเชิง ฟินสุดๆ ระหว่างเส้นทางก็จะมีพรรณไม้แปลกๆ ซึ่งทางไกด์ก็จะให้คำแนะนำเราว่าเป็นต้นอะไรบ้าง สนุกสุดๆ ค่ะ  

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

                     ชื่นชมกับความงามของธรรมชาติจนอิ่มหนำแล้ว เราก็โบกมือบ๊ายบายดอยอินทนนท์ ออกเดินทางต่อไปยังน้ำตกแม่ยะ ซึ่งอยู่ใน อ.จอมทอง น้ำตกแม่ยะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีทั้งหมด 32 ชั้น ช่วงที่เราไปกันน้ำน้อย แต่ก็ถือว่ายังสายงามอยู่ค่ะ ถ่ายรูปกันเพลินเลยทีเดียว บริเวณน้ำตกจะมีโขดหินค่อนข้างเยอะ และน้ำตกไหลแรงค่ะ ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำเท่าไร เราพักผ่อนที่น้ำตกกันพักใหญ่ก็ออกเดินทางกันต่อ กลับถึงที่พักใน อ.สันทราย 5 โมงเย็นพอดี เอารถไปคืนเรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับ 


ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์


              จบทริปแบบฟินาเล่จริงๆ บ๊ายยยบายเชียงใหม่ เมืองที่แสนละมุนละไม ไฉไลทุกจังหวะชีวิต กลับไปใช้ชีวิตวุ่นวายใน กทม. กันต่อ คงได้กลับมาเจอกันอีกแน่นอน ใครอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามจ้า 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น